Breaking News

ดราม่าคดี "ตา" จะข่มขืนหลาน "หนุ่มใต้'ช่วยด.ญ.รอดข่มขืน-ถูกเถ้าแก่ไล่ออก

สงสัยคนดีจะไม่มีที่อยู่จริงๆ..ดราม่าคดี "ตา" จะข่มขืนหลาน "ไม่หมด" หนุ่มพลเมืองดีถูกเถ้าแก่เนี๊ยไล่ออกจากงานส่งน้ำ เหตุเสียงานเพราะเป็นพยานเพียงคนเดียวที่เข้าไปช่วยเหยื่อ






กรณี นายดวง (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ตาแท้ๆ ล่อลวงหลานสาววัย 15 ปี พาเข้าป่าละเมาะในซอยทุ่งควนจีน หมู่ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วปลุกปล้ำฉีกเสื้อผ้าจนขาดวิ่นพยายามจะข่มขืน โชคดีที่พลเมืองดีได้ยินเสียงร้องจึงเข้าช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา ก่อนจับกุมนายดวงที่อยู่ในสภาพเมามายส่งตำรวจ นำไปสู่การแจ้ง 3 ข้อหาหนักและฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลา

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เหตุการณ์นี้น่าจะจบลงเมื่อผู้ก่อเหตุถูกจับเข้าคุกแล้ว แต่แล้วก็เกิดเรื่องดราม่าขึ้นอีกเมื่อ นายทิพกร ทองขาว อายุ 30 ปี หนุ่มใต้พลเมืองดี ผู้ซึ่งเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้ยินเสียงร้องของเด็ก ก่อนจะตามหาต้นเสียงจนมาพบเจอว่า นายดวง ฉีกเสื้อผ้ากำลังจะขืนใจเหยื่อพอดี จึงตัดสินใจปรี่เข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กับผู้ต้องหาแบบไม่คิดชีวิต กระทั่งสามารถช่วยเด็กหญิงให้รอดออกมาจากความบัดซบนี้ ได้ถูกเถ้าแก่เนี๊ยไล่ออกจากงานแล้ว เพราะเจ้าตัวต้องไปเป็นพยานในคดี เถ้าแก่เนี๊ยมองว่าเสียการเสียงานไปส่งน้ำให้กับลูกค้าไม่ทัน



loading...




โดย นายทิพกร ที่อยู่ในความเครียดจัดหลังตกงานจากตำแหน่งพนักงานส่งน้ำของโรงงานผลิตน้ำดื่มใน อ.หาดใหญ่ ได้เข้าขอความช่วยเหลือกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เนื่องจากต้องเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้จนถูกเถ้าแก่เนี๊ยไล่ออก ตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่มีงานทำ ไม่มีที่ไป ไม่มีที่พักอาศัย เพราะอาศัยอยู่กับเถ้าแก่ในที่ทำงานด้วย

"ผมไม่เหลืออะไรแล้ว เมื่อวานผมโดนเถ้าแก่เนี๊ยไล่ออก คือวันเกิดเหตุผมขับรถไปส่งน้ำแล้วได้ยินเสียงเด็กหญิงร้องให้ช่วย จึงจอดรถแล้วตามหาต้นเสียง ไปเจอเหตุการณ์เข้าแบบคาตา ชายแก่กำลังจะข่มขืนเด็ก จึงเข้าไปช่วยเอาไว้ หลังเสร็จเรื่องตำรวจได้ขอเบอร์โทรฯไว้ เพราะผมเป็นพยานเพียงคนเดียว จึงให้เบอร์โทรฯที่ทำงานไป แลัวในวันนั้นผมก็ไปส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทันรวม 50 ถัง จากลูกค้า 50 เจ้า"






หนุ่มพลเมืองดีสุดรันทด เล่าอีกว่า วันต่อมาวันที่ 2 พ.ย. ตนกำลังจะไปส่งน้ำให้กับลูกค้าทั้ง 50 เจ้าที่ว่า แต่จู่ๆตำรวจก็โทรฯมาที่เบอร์โรงงาน บอกกับเถ้าแก่เนี๊ยว่าให้ตนเข้ามาให้ปากคำด้วยตอน 09.00 น. เถ้าแก่เนี๊ยแจ้งตนเสร็จ ตนก็ไปหาตำรวจตามนัด เสร็จให้ปากคำช่วง 14.00 น.แล้วก็รีบวิ่งไปส่งน้ำต่อจนครบ เสร็จเวลาประมาณ 18.00 น. ก่อนจะแวะกลับบ้านไปเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ที่บ้านฟังก่อน จากนั้นก็กลับไปถึงโรงงานตอน 21.00 น.ปรากฏว่าเถ้าแก่เนี๊ยโมโหสุดขีด ไล่ตะเพิดออกจากงานเลย ไม่ฟังคำอธิบายแม้แต่คำเดียว

"สาเหตุที่ผมถูกไล่ออกมี 2 เรื่องคือ 1.ไปช่วยเด็กและต้องเป็นพยานทำให้เสียการเสียงาน ส่งน้ำให้ลูกค้าไม่ทัน 2.รถคันเก่ากระจกแตก ผมต้องเอารถส่งน้ำคันใหม่มาใช้ เถ้าแก่เนี๊ยไม่พอใจ เนื่องจากเอารถโรงงานไปใช้ส่วนตัว ตอนนี้เดือดร้อนมากเพราะไม่มีที่ไปไม่มีเงิน ต้องนอนอยู่บ้านเพื่อนชั่วคราว สับสนในชีวิตมาก อาจจะกลับไปอยู่กับลุงที่ จ.นครศรีธรรมราช ผมภูมิใจที่ได้ช่วยเด็ก แต่ก็อดสมเพชในชะตากรรมตัวเองไม่ได้".





บทความน่าสนใจ



Loading...

ที่มา : ข่าวเดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น