โซเชียลสุดทน "น้องฟ้า" ทวิตเตอร์โชว์หวิว เปลือยกายริมถนน จ.ชัยภูมิ เรียกร้องตำรวจจับกุม
โลกออนไลน์สุดจะทน "น้องฟ้า" ทวิตเตอร์โชว์หวิว เปลือยกายล่อนจ้อนริมถนน จ.ชัยภูมิ ภายหลังเรียกร้องตำรวจจับกุม เหตุทำชื่อเสียงจังหวัดเสียหาย ด้านตร.จัตุรัส รับทราบเรื่งแล้ว จัดชุดไล่ล่าตัวทันที
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก กู้ภัยสว่างคุณธรรม(Sawangkunnatum) ที่เป็นรูปภาพของหญิงสาวรูปร่างดีรายหนึ่ง กำลังยืนเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ริมถนน โดยมีป้ายด้านหลังระบุว่าเป็น อ.จัตุรัส และ จ.ชัยภูมิ นอกจากนี้ยังมีภาพลามกอนาจาร ชายหนุ่มกับหญิงสาวคนเดิม กำลังมีเพศสัมพันธ์กันกลางถนนกลางวันแสกๆ ทำให้ผู้ที่พบเห็นต่างเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเสียหาย และเรียกร้องให้ตำรวจจับกุมดำเนินคดีโดยเร็ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.เกณฑ์ชยะ สกลชัย รอง ผกก.ป.สภ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ว่า ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว หลังจากตรวจสอบภาพที่มีป้ายบอกเส้นทาง ทำให้ทราบว่าจุดที่หญิงสาวกระทำอนาจารอยู่บนถนนสาย อ.จัตุรัส-อ.ซับใหญ่ จึงให้เจ้าหน้าที่รวมรวมพยานหลักฐาน และจัดชุดติดตามไล่ล่าตัวผู้กระทำผิดรายนี้ทันที สำหรับพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุนั้น ได้ข่ายกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 "ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท" และเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
รายงานฝ่ายสืบสวน แจ้งว่า สำหรับรูปภาพลามกต่าง ๆ ของหญิงสาวในโซเชียลนั้น เดิมมาจากทวิตเตอร์ ชื่อ "น้องฟ้าชอบโชว์" หรือ @tboutdoorzz จากการตรวจสอบรายละเอียดอื่น ๆ มีการแสดงข้อความเชิญชวนหนุ่มสาวมาแลกเปลี่ยนคู่นอน ชอบออกไปถ่ายภาพเปลือยโชว์ตามสถานที่ต่าง ๆ สำหรับภาพที่ไปถ่ายกับป้าย อ.จัตุรัส และ จ.ชัยภูมินั้น ถูกนำมาลงทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โพสต์สุดท้ายของหญิงสาวรายนี้ระบุไว้ว่า หากถูกร้องเรียนอีก ก็จะปิดทวิตเตอร์ไม่เปิดอีกต่อไป ซึ่งขณะนี้ทวิตเตอร์ดังกล่าว ได้ปิดไปเรียบร้อยแล้ว.
บทความน่าสนใจ
ที่มา : ข่าวเดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น